ตั้งใจจะดูแค่ตอนเดียว..
แต่พอรู้ตัวอีกที ก็เผลอเลื่อนดูไปแล้ว 10 ตอน!
ถ้าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ ยินดีต้อนรับสู่จักรวาล “ซีรีส์แนวตั้ง” คอนเทนต์มาแรงที่สะท้อนพฤติกรรมคนไทยยุคใหม่ ที่ชอบเรื่องสั้น ดูง่ายบนจอมือถือทุกที่ทุกเวลา
ไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่คนทั่วโลกกำลังนิยมเทรนด์นี้ จากช่วงปี 2567-2568 กระแส “ซีรีส์แนวตั้ง” (Vertical Short Drama) ขยายตัวอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นตลาดผลิตและส่งออกคอนเทนต์แนวนี้ไปต่างประเทศได้อย่างเป็นระบบและเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2568
หากมองในภาพรวมของตลาดคอนเทนต์ประเภทนี้ทั่วโลก
จากข้อมูลสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน (DITP Xiamen) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 แอปพลิเคชัน “ซีรีส์สั้น” ทั่วโลกมีรายได้รวมเกือบแตะ 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 22,682 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าจากปีก่อน มียอดดาวน์โหลดรวมถึง 370 ล้านครั้ง โดยคาดการณ์ว่าขนาด “ตลาดซีรีส์สั้น” ทั่วโลกจะทะลุ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 324,025 ล้านบาท) ภายใน 3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ “ซีรีส์สั้น” (Short Dramas) ในรายงานดังกล่าว หมายถึงคอนเทนต์วิดีโอแบบละครตอนสั้นที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีต่อหนึ่งตอน ซึ่งในปัจจุบันรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ “ซีรีส์สั้นแนวตั้ง” (Vertical Short Dramas) หรือที่หลายคนเรียกว่า “ซีรีส์แนวตั้ง” เพราะออกแบบมาให้รับชมผ่านจอมือถือโดยเฉพาะ ทั้งมุมกล้อง จังหวะการตัดต่อ และพล็อตเรื่องจบไว
จีนถือเป็นผู้เล่นหลักในตลาดนี้ จากข้อมูล DITP Xiamen ระบุว่า เพียงไตรมาสแรกของปี 2568 จีนมีแอปพลิเคชันที่เปิดตัวใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าในตลาดต่างประเทศ โดยมีมากถึง 237 แอปพลิเคชัน และมียอดดาวน์โหลดรวมกว่า 270 ล้านครั้ง และกำลังขยายเครือข่ายสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งตลาดอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่ในประเทศไทย “ซีรีส์แนวตั้ง” เป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่กำลังมาแรงในโซเชียล โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ Real Reel เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคม 2568 ไทยติด 1 ใน 10 อันดับแรกของโลกด้านยอดดาวน์โหลดซีรีส์แนวตั้ง ซึ่งถือเป็นข้อพิสูจน์ความชอบของผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับคอนเทนต์จากจีนที่กำลังมีบทบาทสำคัญในตลาดซีรีส์แนวตั้งของไทย
อะไรคือ เสน่ห์ของ “ซีรีส์จีนแนวตั้ง”
คลิปสั้น ๆ ที่ใช้เวลาดูต่อตอนเพียงไม่กี่นาที ทำไมถึงสะกดคนดูได้อยู่หมัด? จากการติดตามกระแสบนโซเชียลมีเดียพบว่า จุดเด่นของซีรีส์จีนแนวนี้คือ เดินเรื่องเร็ว กระชับ จังหวะการเล่าเรื่องที่ดึงคนดูไว้ได้ตั้งแต่วินาทีแรก และยังมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้คนดู “ติด” จนหยุดดูไม่ได้ ที่สำคัญความคล้ายคลึงด้านวัฒนธรรมก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คนไทยติดดูซีรีส์จีนประเภทนี้
พล็อตเว่อร์แต่สนุก เนื้อหาส่วนใหญ่ของซีรีส์จีนแนวตั้งมักใช้พล็อตที่ “เกินจริงแต่ติดใจ” ไม่ว่าจะเป็นแนวทะลุมิติกลับชาติมาเกิดใหม่ แฟนเก่ากลับมารวย หรือ ซีอีโอจอมเผด็จการที่รวยล้นฟ้า พระเอกเย็นชาที่สุดท้ายแพ้ใจนางเอก แม้พล็อตเหล่านี้จะดูเว่อร์! หรือเกินจริงไปมาก! แต่ก็กลายเป็นพล็อตสูตรสำเร็จที่ถูกใจคนดูมาก
สั้น! แต่ตรงจริตยุคโซเชียล คนไทยจำนวนมากถือเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่ ชอบคอนเทนต์เร็ว เข้าใจง่าย และเข้าถึงอารมณ์ในทันที ซีรีส์แนวตั้งตอบโจทย์พฤติกรรมนี้พอดี ด้วยเนื้อหาย่อยง่าย ดูได้จบตอนในไม่กี่นาที แต่ยังมีจังหวะดราม่าที่เข้มข้นเหมือนดูละครทีวี จึงไม่แปลกที่หลายคน “ตั้งใจจะดูแค่ตอนเดียว แต่จบไปสิบตอนโดยไม่รู้ตัว” เข้ากับจริตการไถฟีดหาความบันเทิงของคนยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์
เสียงพากย์ไทยช่วยให้เข้าถึงง่าย อีกปัจจัยที่ทำให้ซีรีส์แนวตั้งจากจีนเป็นที่นิยม คือ การแปลและพากย์ไทยที่เข้าถึงง่าย จากเดิมที่ต้องอ่านซับไตเติล ตอนนี้แพลตฟอร์มต่าง ๆ หันมาลงทุนด้านเสียงพากย์คุณภาพสูง ใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ เข้ากับยุคสมัยและอารมณ์ของเรื่อง จนเสมือนได้ดูละครไทย การพากย์ไทยจึงกลายเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยขยายฐานผู้ชมให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่คุ้นกับการอ่านซับ และทำให้ “ซีรีส์แนวตั้ง” กลายเป็นคอนเทนต์ต่างประเทศที่ทำให้คนไทยรู้สึกมีอารมณ์ร่วมเหมือนดูละครไทยมากที่สุดในตอนนี้
เพราะอัลกอริทึมรู้ใจ เบื้องหลังความนิยมซีรีส์แนวตั้งนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่ามี “พลังของอัลกอริทึม” ที่คอยดันซีรีส์แนวตั้งขึ้นฟีดอย่างต่อเนื่อง เมื่อเราดูหนึ่งตอนจบ ระบบก็จะแนะนำเรื่องใหม่ที่โทนเนื้อหาคล้าย ๆ กันอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นพฤติกรรม “ไถต่อไม่หยุด”
ไทยก็มีแนวนี้ “ละครคุณธรรม” สั้น ๆ พร้อมข้อคิด
ความนิยมของ “ซีรีส์แนวตั้ง” ยังสะท้อนเทรนด์การเสพคอนเทนต์ในไทยที่กำลังเปลี่ยนไป เพราะกรณี “ละครคุณธรรม” ที่ผลิตโดยคนไทยเองก็ได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเช่นกัน โดยมีผู้สร้างคอนเทนต์ที่เป็นที่รู้จักอย่าง “ดอยแม่สลอง สื่อสังคมออนไลน์” ด้วยฐานผู้ติดตามบน Facebook 13 ล้านคน TikTok มากถึง 7.6 ล้านคน และบน YouTube อีก 5.53 ล้านคน โดยมีจุดเด่นสำคัญคล้าย ๆ กัน คือ “เล่าเรื่องไว ดราม่าแรง และสรุปข้อคิดชัดเจน”
ต่างกันเพียงรูปแบบการเล่าและสไตล์การถ่ายทำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนไทยไม่ได้แค่ชอบดูคอนเทนต์แนวตั้ง แต่ชอบ “เรื่องเล่าที่เข้าถึงอารมณ์และมีสาระ” ในเวลาสั้น ๆ ด้วย
แพลตฟอร์มซีรีส์จีนแนวตั้งที่คนไทยนิยม
ถ้าพูดถึงซีรีส์จีนแนวตั้งสามารถรับชมได้ผ่านแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงอย่าง WeTV, iQIYI และปัจจุบันมีแพลตฟอร์มเฉพาะทางอย่าง ReelShort, Melolo, DramaBox, DramaWave และ FlexTV ซึ่งเริ่มมีผู้ใช้งานชาวไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย TikTok ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการทำให้ซีรีส์แนวตั้งจากจีนเข้าถึงผู้ชมไทยได้อย่างแพร่หลาย
———————————————-
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น “ซีรีส์สั้น” สัญชาติจีน หรือ “ละครคุณธรรม” สัญชาติไทย ล้วนสะท้อนปรากฏการณ์เดียวกัน คือ “พฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนไป” จากเดิมที่เคยดูละครยาวๆ เป็นชั่วโมง วันนี้เพียงไม่กี่นาทีบนหน้าจอมือถือ ก็สามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกอิน ฟิน ไปกับเรื่องราวได้ไม่แพ้กัน
by Muttira Nommaneewong, Pornlada Panichakul
ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.ditp.go.th/post/p70iq4kmcztdrl0mbl9ldpum
https://medium.com/real-reel/vertical-short-drama-market-july-2025-9d3ec54cf37f




