คดีคลิปเสียงประเด็นร้อนวันนี้ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้แฮชแท็ก #แพทองธารชินวัตร #นายกรัฐมนตรี #ศาลรัฐธรรมนูญ พุ่งสู่อันดับ 1 เทรนด์ X ประเทศไทยทันที ขณะที่ Google Trends แสดงการค้นหา "ศาลรัฐธรรมนูญ" พุ่งสูงสุดระดับ 100

ช่วงบ่ายวันนี้ (29 ส.ค. 2568) ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยโดยมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 ให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคดีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยวินิจฉัยว่า น.ส.แพทองธาร ขาดคุณสมบัติการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี เนื่องจากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ปฏิบัติหน้าที่ขาดความรอบคอบระมัดระวัง ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องพ้นตำแหน่งทั้งคณะไปด้วย
หุ้นไทยร่วง 11 จุดหลังศาลฯอ่านคำวินิจฉัย
หลังศาลรัฐธรรมนูญประกาศคำวินิจฉัย ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงทันที โดยเมื่อเวลาประมาณ 15.42 น. ดัชนี SET อยู่ที่ระดับ 1,238.98 จุด ลดลง 11.11 จุด (-0.89%)
ชาวเน็ตจับตาผลคดีคลิปเสียงแห่ค้นหาพุ่ง
ข้อมูลจาก Google Trends แสดงให้เห็นว่าคำค้นหา “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในวันนี้ (29 ส.ค.) ความสนใจของประชาชนสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดที่ 100 หลังจากที่อยู่ในระดับต่ำประมาณ 10-15 ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา

ความสนใจอย่างก้าวกระโดดนี้สะท้อนถึงความสำคัญของคำวินิจฉัยที่มีต่อสังคม และการวินิจฉัยครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทยที่จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและการบริหารประเทศในระยะต่อไป
“แพทองธาร” แถลงเปิดใจหลังพ้นเก้าอี้นายกฯ
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แถลงเปิดใจหลังพ้นจากตำแหน่งนายรัฐมนตรี คนที่ 31 ยอมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตน ต้องการทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติพร้อมระบุการเมืองถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้งขอให้ทุกฝ่ายร่วมสร้างเสถียรภาพทางการเมืองกลับมาให้ได้