เจ็บป่วยตอนเที่ยวญี่ปุ่น ทำไง? โซเชียลยกเคส “ต้าเอส”

ข่าวการจากไปของ "ต้าเอส" สวีซีหยวน นักแสดงสาวชื่อดังจากบท “ซันไช่” ซีรีส์ F4 เวอร์ชั่นไต้หวัน สร้างความสะเทือนใจให้กับแฟนๆ ทั่วเอเชีย โดยเฉพาะในไทยที่มีแฟนคลับจำนวนมาก สาเหตุการเสียชีวิตที่เริ่มจากไข้หวัดใหญ่ระหว่างทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่น ก่อนจะมีภาวะแทรกซ้อนลุกลามที่ปอด ทำให้ผู้คนในโซเชียลต่างแชร์ประสบการณ์และข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการรับมือเมื่อเจ็บป่วยในต่างแดน แม้ญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อเรื่องการแพทย์ที่ทันสมัย แต่นักท่องเที่ยวก็ควรรู้วิธีเอาตัวรอดยามฉุกเฉิน เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการขอความช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วยในญี่ปุ่น โดยมีช่องทางหลักดังนี้

การขอความช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วยในญี่ปุ่น หากเกิดอาการเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บระหว่างท่องเที่ยว สามารถขอความช่วยเหลือได้จากหลายช่องทาง:

  1. แผนกต้อนรับหรือแผนกบริการของโรงแรม – พนักงานสามารถช่วยแนะนำสถานพยาบาลใกล้เคียงและประสานงานให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
  1. จุดบริการข้อมูลนักท่องเที่ยว (Tourist Information) หรือสถานีตำรวจ (Koban) – เจ้าหน้าที่สามารถแนะนำสถานพยาบาลในพื้นที่และให้ความช่วยเหลือในการติดต่อประสานงาน
  1. บริษัทประกันการเดินทาง – หากทำประกันไว้ สามารถติดต่อบริษัทเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับโรงพยาบาลในเครือและขั้นตอนการเคลมประกัน
  1. Japan Visitor Hotline (050-3816-2787) – ศูนย์บริการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เปิดบริการ 24 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่สื่อสารได้ 4 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น

ประเภทของการบริการทางการแพทย์

ระบบการแพทย์ในญี่ปุ่นแบ่งตามความรุนแรงของอาการ:

  • กรณีฉุกเฉิน – โทร 119 เพื่อเรียกรถพยาบาล โรงพยาบาลฉุกเฉินเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  • กรณีเจ็บป่วยทั่วไป – สามารถเข้ารับการรักษาที่คลินิกหรือโรงพยาบาล ในช่วงเวลาทำการปกติ
  • กรณีอาการไม่รุนแรง – ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ สามารถปรึกษาเภสัชกรและซื้อยาจากร้านขายยาทั่วไป

ขั้นตอนการเข้ารับบริการทางการแพทย์

  • ลงทะเบียน – เจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูล และอาการก่อนเข้ารับการรักษา
  • กรอกประวัติและข้อมูลในแบบฟอร์ม
  • พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
  • ชำระค่ารักษาพยาบาล
  • รับยาตามใบสั่ง หรือนำใบสั่งยาไปซื้อที่ร้านขายยา

การเตรียมความพร้อม

  • สิ่งที่ควรพกติดตัว:

    – เอกสารแสดงตัวตน เช่น พาสปอร์ต

    – ประวัติการรักษาและการแพ้ยา

    – เอกสารประกันสุขภาพ (ถ้ามี)

    – เงินสดหรือบัตรเครดิตสำหรับค่ารักษา

  • ข้อแนะนำเพิ่มเติม:

    – ศึกษาตำแหน่งสถานพยาบาลใกล้ที่พัก 

    – เตรียมภาพหรือแอพพลิเคชันช่วยสื่อสารอาการกับแพทย์

    – สอบถามเรื่องบริการล่ามในสถานพยาบาลที่จะใช้บริการ

การเตรียมพร้อมและทราบข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพหากเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

ข้อมูลอ้างอิง:

  • องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น

ข่าวเกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กฎใหม่! บริจาควัดต้องผ่าน e-Donation ท่ามกลางกระแสข่าววัดพระบาทน้ำพุ

#วัดพระบาทน้ำพุ และ #หลวงพ่ออลงกต กลายเป็นหัวข้อที่คนพูดถึงกันมากในโซเชียลมีเดียวันนี้ โดยข้อมูลจาก Google Trends แสดงให้เห็นว่าคำค้นหา “วัดพระบาทน้ำพุ” มีการค้นหาเพิ่มขึ้นอย่างมาก…

Read More »

สำรวจ 4 พื้นที่พิพาทที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์

สถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดบริเวณ ปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 68 เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่…

Read More »

บทบาทมหาอำนาจต่อความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา

ความขัดแย้งชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาที่ปะทุขึ้นอย่างรุนแรงในปี พ.ศ. 2568 มิใช่เพียงประเด็นทวิภาคีระหว่างสองประเทศ หากแต่กลายเป็นเวทีของการแสดงบทบาทของมหาอำนาจโลกและองค์กรระหว่างประเทศที่มีผลประโยชน์ใ…

Read More »

รู้จัก “อนุสัญญาเจนีวา” ที่กัมพูชาฝ่าฝืน โจมตีโรงพยาบาลพลเรือน

ทำความรู้จัก “อนุสัญญาเจนีวา” กฎหมายสงครามระหว่างประเทศที่ห้ามโจมตีพลเรือน โรงพยาบาล สถานศึกษา และพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวกับการทหาร แต่กัมพูชาฝ่าฝืนอนุสัญญานี้ จนทำให้พลเรือนไทยหลายคนบาดเจ็บแล…

Read More »

เครื่องบินขับไล่ Gripen สัญชาติสวีเดนของกองทัพอากาศไทยกับภารกิจรบจริงเป็นครั้งแรกของโลก

เครื่องบินขับไล่ Gripen ของกองทัพอากาศไทยปฏิบัติภารกิจรบจริงครั้งแรกของโลกในการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อม F-16 ทิ้งระเบิดรอบแรกใน 30 ปี

Read More »

บทบาทขององค์กรนานาชาติและกลไกทวิภาคี จากกรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

การปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา 2568 กับบทบาทองค์กรระหว่างประเทศในการแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนด้วยสันติวิธี

Read More »